วันพุธที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๑๖

วันที่ ๒๗ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๐

ประโยชน์ของผักโขม



   👉ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ผักโขมเป็นไม้พุ่มเตี้ยและเป็นพืชล้มลุกปีเดียว สูง ๓๐-๑๐๐ ซม. ลำต้นอวบน้ำมีสีเขียวตั้งตรง แตกกิ่งก้านสาขามาก โคนมีสีแดงน้ำตาล ใบเป็นใบเดียวรูปไข่คล้ายสามเหลี่ยม ใบออกแบบสลับ กว้าง ๒.๕-๘ ซม. ยาว ๓.๕-๑๒ ซม. ผิวเรียบหรือมีขนเล็กน้อย ขอบใบเรียบ หลังให้เป็นคลื่นเล็กน้อย ดอกเป็นดอกช่อสีม่วงปนเขียว ออกดอกเป็น ช่อตามซอกใบ และปลายกิ่งดอกย่อยเรียงตัวอัดกันแน่น เมล็ดมีลักษณะกลมสีน้ำตาลเกือบดำ ขนาดเล็ก
   👉การใช้ประโยชน์
●ทางอาหาร > ยอดอ่อน ใบอ่อน ต้นอ่อน นำมาต้ม ลวก หรือนึ่งให้สุก เป็นผักจิ้มน้ำพริก เช่น น้ำพริกปลาร้า ปลาจ่อม กะปิ ปลาทูและน้ำพริกอีกหลายชนิด หรือนึ่งพร้อมกับปลาทำผัดผักกับเนื้อสัตว์ นำไปปรุงเป็นแกง เช่น แกงเลียง เป็นต้น
●ทางยา > ดับพิษภายในและภายนอก แก้บิด มูกเลือด ริดสีดวงจมูก ริดสีดวงทวาร แก้ผื่นคัน แก้รำมะนาด รักษาฝี แผลพุพอง ใบสด>รักษาแผลพุพอง ต้น>แก้อาการแน่นหน้าอกและไอ หอบ ราก>ดับพิษร้อนถอนพิษไข้ ขับปัสสาวะ



ที่มา : เดชา ศิริภัทร.คุณค่าของผักโขม.กรุงเทพฯ:นิตยสารหมอชาวบ้าน,๒๕๕๗



บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๑๕

วันที่ ๒๗ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๐

ประโยชน์ของมะละกอ



      มะละกอผลไม้ที่สามารถทานได้ทั้งดิบและสุก ซึ่งก็มีรสชาติอร่อย และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการทานแบบสดๆ นำมาทำส้มตำและนอกจากการนำมาใช้ประโยชน์แล้ว มะละกอก็ยังให้ประโยชน์อีกมากมายที่จะช่วยบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงและต้านโรคร้ายได้อีกด้วย โดยประโยชน์ของมะละกอ มีดังนี้
      👉 ต้านโรคมะเร็ง
เพราะมะละกอมีสารไลโคปีนที่จะช่วยในการต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก 
      👉 บำรุงหัวใจ 
มะละกอมีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจให้แข็งแรง เพราะสามารถป้องกัน การเกิดไขมันอุดตันเส้นเลือดหรือโรคหัวใจขาดเลือดได้เป็นอย่างดี
      👉 ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
เนื่องจากมะละกอเป็นผลไม้ที่ย่อยง่าย จึงทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี
      👉 บรรเทาอาการท้องผูก
มะละกอมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆและมีเส้นใยสูงจึงสามารถบรรเทาอาการท้องผูกได้ดี แถมยังลดความเสี่ยงการเป็นโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย ดังนั้นใครที่มีปัญหาท้องผูกเป็นประจำ การทานมะละกอก็จะช่วยให้แก้อาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และสามารถปรับระบบขับถ่ายให้เป็นปกติได้ดี



ที่มา : หทัยรัตน์ อุไรรงค์.เอกสารวิชาการมะละกอ.นครปฐม:กรมวิชาการเกษตร,๒๕๔๘


วันพุธที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๑๔

วันที่ ๒๐ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๐

อาหารที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นในหน้าหนาว


●อาหารในกลุ่มธัญชาติ
                  

       - อาหารกลุ่มนี้จะรวมถึงส่วนของเมล็ดทั้งหมดซึ่งเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆมากมายในอาหารที่ช่วยในการย่อย เช่น เมล็ดฟักทอง งาขาว งาดำ 

●อาหารในกลุ่มถั่วเปลือกแข็ง


       - อาหารกลุ่มนี้มีไขมันสูง แต่เป็นไขมันที่ดีต่อร่างกาย ช่วยลดโอกาสการเป็นโรคหัวใจ ให้พลังงานสูง ซึ่งช่วยให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่นเพิ่มมากขึ้น

●อาหารในกลุ่มเนื้อสัตว์

      - ในเนื้อสัตว์ส่วนมากมีไขมันประเภทอิ่มตัว ซึงเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายทำให้เกิดโรคไขมันในเลือดแต่จะมีไขมันสัตว์บางชนิดที่ดีต่อร่างกาย เช่น ปลาทะเลและสัตว์บางชนิด ที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ ปลาทะเลน้ำลึก ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลากะพง

●อาหารในกลุ่มเครื่องเทศและสมุนไพร
  ขิง                    
      สมุนไพรพื้นบ้านที่มีรสชาติเผ็ดร้อนช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ลดการเกิดไข้หวัด
  กระเทียม
      ความร้อนของกระเทียมช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น หากเป็นกระเทียมสดจะยังมีน้ำมันหอมระเหยมากกว่า สารในกระเทียมช่วยฆ่าแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดคออักเสบและโรคหวัดในฤดูหนาวได้
  หัวหอม 
      หัวหอมมีคุณสมบัติทำให้ร่างกายอบอุ่น เพิ่มภูมิต้านทานโรคให้แก่ร่างกาย แต่ควรระวังเพราะหากกินมากเกินไปอาจเกิดการร้อนในได้

พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ควรทำในหน้าหนาว
 ●การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
     ฤทธิ์แอลกอฮอล์จะทำให้หลอดเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังขยายตัวทำให้เกิดความรู้สึกร้อนขึ้น แต่ร่างกายจะยิ่งขับความร้อนออกนอกร่างกาย ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลงจะยิ่งหนาวมากขึ้นตอนหลัง ถ้าดื่มเป็นประจำยิ่งเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และหลอดเลือดและโรคเบาหวาน


ที่มา : จรรยา เลิศพงษ์ไทย.อาหารที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นในหน้าหนาว.นครสวรรค์:E-idea๑๖๘,๒๕๕๕





บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๑๓

วันที่ ๒๐ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๐

รับมืออย่างไร...เมื่อข้อเท้าแพลง



      ข้อเท้าแพลง(ankle sprain) เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้คาดคิด ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ข้อเท้าแพลงนั้นก็มีหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากอุบัติเหตุรอบตัว การออกกำลังกาย เป็นต้น
    
สาเหตุหลักๆที่ทำให้ข้อเท้าแพลง
๑.อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
      ในปัจจุบันสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการข้อเท้าแพลงมาจากอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆเป็นส่วนใหญ่ เช่น ตกบันได ก้าวพลาด ตกส้นสูง เท้าพลิก เป็นต้น
๒.อุบัติเหตุจากการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา
       อาการเท้าแพลงที่เกิดขึ้นมากที่สุดจะมาจากการออกกำลังกายโดยอาการที่เท้าแพลงที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะมาจากการที่เอ็นและเนื้อเยื่อรอบข้อเท้านั้นฉีกขาด เลยทำให้ข้อเท้าไม่มั่นคง ซึ่งกิจกรรมที่ทำให้เกิดอาการเท้าแพลงนั้น เช่น วิ่ง หกล้ม เล่นกีฬา ข้อเท้าพลิก เป็นต้น
๓.อุบัติเหตุจากการสวมรองเท้าที่ไม่เหมาะกับขนาดเท้าโดยสำหรับผู้หญิงที่ใช้รองเท้าส้นสูงจะเพิ่มโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ข้อเท้าพลิกขณะสวมใส่ทำกิจกรรมได้


ลักษณะอาการเบื้องต้น
ระดับที่ ๑ : มีอาการปวด บวม กดแล้วเจ็บที่บริเวณเท้า
ระดับที่ ๒ : เอ็นและเนื้อเยื่อรอบข้อเท้ามีการฉีกขาดบางส่วนปวดบวมที่บริเวณเท้ามาก
ระดับที่ ๓ : ระดับนี้รุนแรงที่สุดเอ็นที่บริเวณเท้ามีการฉีกขาดทั้งหมด เดินลงน้ำหนักไม่ได้

หลักการ R.l.C.E (ปฐมพยาบาลเบื้องต้น)
๑.R-Rest นั่งพักเพื่อสังเกตุอาการจากข้อเท้าแพลงว่ารุนแรงไหม
๒.l-lce ประคบเย็นเพื่อลดบวมและช่วยให้เลือดออกน้อยลง โดยประคบเย็นประมาณ ๑๕ นาที ทุกๆ ๒ ชั่วโมง ข้อห้ามไม่ควรประคบร้อน หรือนวดบริเวณที่เกิดการบวมเจ็บในระยะแรกเพราะจะทำให้บวมมากยิ่งขึ้น
๓.C-Compression ใช้ผ้าพันบริเวณที่บวมและพยายามไม่เคลื่อนไหว ถ้าไม่จำเป็นเพราะจะทำให้ปวดในบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ
๔.E-Evaluation ยกปลายเท้าให้สูงขึ้น เพื่อลดบวมและลดความเจ็บปวด

ที่มา : เทพ หมอชิด.รับมืออย่างไร...เมื่อข้อเท้าแพลง.กรุงเทพฯ:สโมสรนิสิตคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,๒๕๖๐

วันพฤหัสบดีที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๑๒

วันที่ ๑๔ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๐

สารเสพติด



     สารเสพติดสารใดก็ตามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือสารสังเคราะห์ขึ้นเมื่อนำเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดยวิธีรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยวิธีการใดๆแล้วทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจ
      
ลักษณะสำคัญของสารเสพติด จะทำให้เกิดอาการ และอาการแสดงต่อผู้เสพ ดังนี้
    ๑.เกิดอาการดื้อสาร หรือต้านสาร และเมื่อติดแล้ว ต้องการใข้สารนั้นในปริมาณที่มากขึ้น
    ๒.เกิดอาการขาดสาร ถอนสาร หรือสารกสาร เมื่อใช้สารนั้นเท่าเดิม ลดลง หรือหยุดใช้
    ๓.มีความต้องการเสพทั้งทางร่างกายและจิตใจ อย่างรุนแรงตลอดเวลา
    ๔.สุขภาพร่างกายทรุดโทรมลงเกิดโทษต่อตนเอง ครอบครัว ผู้อื่น ตลอดจนสังคมและประเทศชาติ

การออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท แบ่งออกเป็น ๔ ประเภทคือ
    ๑.สารเสพติดประเภทกดประสาท ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน สารระเหย และสารกล่อมประสาท
    ๒.สารเสพติดประเถทกระตุ้นประสาท ได้แก่ แอมเฟตามีน กระท่อมและโคเคอีน
    ๓.สารเสพติดประเภทหลอนประสาท ได้แก่ แอลเอสดี ดีเอ็มพี และเห็ดขี้ควาย
    ๔.สารเสพติดประเภทออกฤทธิ์ผสมผสาน กล่าวคือ อาจกดกระตุ้นหรือหลอนประสาทได้พร้อมๆกัน ตัวอย่างเช่น กัญชา 


ที่มา : กิตติพงศ์ ไพชิต.สารเสพติด.กรุงเทพฯ:ห้างหุ้นส่วน จำกัด ไอเดีย สแควร์,๒๕๖๐

     

บันทึกการอ่านครั้งที่ ๑๑

วันที่ ๑๔ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๐

ระบบประสาทและการทำงาน



        ระบบประสาทมีหน้าที่ควบคุมและประสานการทำงานของระบบต่างๆของร่างกาย หลังจากที่รวบรวมข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่มีความสัมพันธ์กับระบบต่างๆของร่างกายก็จะมีการวิเคราะห์และการสั่งให้มีการตอบสนองที่เหมาะสมเพื่อรักษาสมดุลต่างๆของร่างกาย ตอบสนองต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งความต้องการที่สำคัญที่สุดของร่างกายคือเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด จะพูดได้อีกอย่างก็คือ ระบบประสาททำให้คนเรามีชีวิตและการตอบสนองนั่นเอง 

ระบบประสาทของมนุษย์แบ่งออกได้เป็น ๒ ส่วนดังนี้
๑.ระบบประสาทส่วนกลาง มีอวัยวะที่เกี่ยวข้องดังนี้ 
    ๑.๑.สมอง(Brain) สมองของสันกระดูกหลังที่สำคัญแบ่งออกเป็น ๓ ส่วนดังนี้
         -เซรีบรัมเฮมิสเฟียร์ 
         -เมดัลลาออบลองกาตา
         -เซรีเบลลัม
    ๑.๒.ไขสันหลัง
    ๑.๓.เซลล์ประสาท
๒.ระบบประสาทรอบนอก จำแนกตามลักษณะการทำงานได้ ๒ แบบ
    ๒.๑.ระบบประสาทภายใต้อำนาจจิตใจ
    ๒.๒.ระบบประสาทนอกอำนาจจิตใจ


ที่มา : สมนึก นิลบุหงา.ระบบประสาทและการทำงาน.กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,๒๕๕๕


วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๑๐

วันที่ ๗ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๐

 อาหารบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง



๑.เลือดสัตว์ ตับสัตว์ เนื้อสัตว์ต่างๆ
        อาหารเหล่านี้จะมีธาตุเหล็กอยู่มาก ซึ่งเจ้าธาตุเหล็กเหล่านี้นี่แหละจะช่วยบำรุงโลหิต และธาตุเหล็กที่มาจากสัตว์ ลำไส้จะดูดซึมไปใช้ได้มากกว่าธาตุเหล็กที่มาจากพืช

๒.ผักใบเขียวเข้ม
        อีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ทานมังสวิรัติ แม้ว่าธาตุเหล็กที่ได้จากพืชจะไม่มากเท่าจากสัตว์ แค่ก็ควรทานก่อนจะอยู่ในภาวะขาดธาตุเหล็ก ผักที่แนะนำ ได้แก่ คะน้า บล็อกโคลี่ ผักบุ้ง หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม

๓.ไข่
        เป็นอีกหนึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ส่วนใหญ่คือ "โปรตีน" แต่ก็ยังมีปริมาณของธาตุเหล็กที่จะช่วยบำรุงโลหิตของเราให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ "ไข่แดง" จะมีธาตุเหล็กสูงกว่าไข่ขาว

๔.ธัญพืชต่างๆ
        ถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วดำ อัลมอนด์ รวมไปถึงข้าวโอ๊ต และจมูกข้าวสาลี่ ก็เป็นแหล่งอาหารที่นอกจากจะมีโปรตีนที่ดีต่อการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงแล้วยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และบำรุงโลหิตอีกด้วย

๕.อาหารทะเล
        อาหารทะเลอย่างปลา กุ้ง ปลาหมึก ปู อุดมไปด้วยโปรตีนและแร่ธาตุต่างๆมากมาย รวมไปถึงธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงโลหิตอีกด้วย แต่อย่าทานมากเกินไป เพราะอาหารทะเลที่อร่อยสุดๆมักมาพร้อมกับปริมาณแคลอรี่ และคอเลสเตอรอลที่มากตามไปด้วย
      
      นอกจากอาหารแล้ว ผู้ที่มีความเสี่ยงในการเป็นโลหิตจาง ควรออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอจะได้ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟู สร้างเม็ดเลือดแดงดีๆไว้บำรุงร่างกายให้แข็งแรง



ที่มา : รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานุภาพ.อาหารบำรุงเลือดป้องกันเลือดจาง.กรุงเทพฯ:หมอชาวบ้าน,๒๕๖๐

บันทึกการอ่าน ครั้งที่๙

วันที่ ๗ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๐

การเดินและการวิ่ง



      การเดิน-วิ่งเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ทำได้ง่าย ประหยัดไม่ต้องใช้อุปกรณ์อาศัยเพียงแค่สถานที่วิ่งที่เหมาะสม มีอากาศถ่ายเทสะดวก แถมยังเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่ดีต่อระบบต่างๆทั้งภายในและภายนอกร่างกาย

ประโยชน์ของการเดิน-วิ่ง
       การเดิน-วิ่งเป็นประจำส่งผลดีต่อร่างกายทุกระบบทั้งร่างกาย และจิตใจและลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่ง
      -ด้านสุขภาพพื้นฐานทั่วไป   ช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้ปกติ การทำงานของหัวใจ ปอด และการหายใจดีขึ้น เพิ่มความฟิตให้ร่างกาย และสมบูรณ์ให้กับร่างกาย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อทำให้ส่วนต่างๆของร่างกายทำงานได้ดีขึ้นและช่วยลดบรรเทาในการเกิดโรคประจำตัวต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันเลือด โรคเบาหวาน ช่วยลดระดับไขมันในเลือด และช่วยในการลดน้ำหนัก และควบคุมน้ำหนักได้  และยังสามารถช่วยให้ด้านสุขภาพจิต และอารมณ์ดีขึ้น ช่วยทำให้ลดระดับความเครียดลง

ระยะทางและเวลาในการเดิน-วิ่ง
       โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ ๑๕๐ นาที/สัปดาห์ อาจเป็นการเดินหรือวิ่ง วันละ ๔๐-๕๐ นาที สัปดาห์ละ ๓-๔วัน หรือถ้าหากวิ่งแล้วมีอาการเหนื่อยมากพักแล้วไม่หาย ให้ลดเวลาวิ่งลงเหลือ ๗๕ นาที/สัปดาห์ หรือประมาณ ๓๐ นาที สัปดาห์ ๓วัน ก็ได้

ที่มา : นพ.ภัทรภณ อติเมธิน.การเดินและการวิ่งเพื่อสุขภาพ.กรุงเทพฯ:วิง มิเดีย,ม.ป.ป.

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๘

วันที่ ๓๐ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐

ขยะมูลฝอย


   
        ในชีวิตประจำวันของเรา มีสิ่งของที่หมดประโยชน์ใช้สอยมากมาย หมดคุณภาพหรือชำรุดแตกหักมากมาย สิ่งของทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวัสดุชิ้นเล็กๆ เช่น เศษกระดาษ เศษอาหาร เศษผ้า แก้วแตก หลอดไฟที่เสียแล้ว หรือวัสดุชิ้นใหญ่ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ที่ชำรุดหักพัง พัดลมหรือตู้เย็น ที่เสียใช้การไม่ได้ เรียกว่า "ขยะมูลฝอย" ทั้งสิ้น เราพบขยะมูลฝอยได้ตามบ้าน เรือนที่พักอาศัย ร้านค้า ตลาด โรงเรียน โรงพยาบาล ตามท้องถนน และในแม่น้ำ ลำคลองทั่วไป ขยะมูลฝอยเหล่านี้ ถ้าทิ้งกระจัดกระจายไม่เป็นที่เป็นทาง จะทำให้บ้านเมืองสกปรก ไม่เป็นระเบียบ ขยะมูลฝอยที่บูดเน่า นอกจากจะส่งกลิ่นเหม็นรบกวนผู้อื่นที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ยังเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค ต่างๆอีกด้วย

เราอาจแยกขยะมูลฝอยออกเป็น ๕ ประเภท ได้แก่
๑.เศษอาหารและพืชผัก ที่เหลือจากการรับประทานและการประกอบอาหาร
๒.เศษแก้วแตก กระเบื้องแตก เศษวัสดุก่อสร้าง เช่น ไม้ อิฐ หิน
๓.วัสดุชิ้นใหญ่ เช่น รถจักรยานพัง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้การไม่ได้ ฯลฯ
๔.วัสดุที่มีสารพิษ เช่น หลอดไฟ หลอดนีออน แบตเตอรี่ ที่ใช้การไม่ได้ วัสดุติดเชื้อต่างๆ เช่น ขยะมูลฝอยที่เก็บได้จากโรงพยาบาลและวัสดุสารเคมีจากโรงงาน
๕.วัสดุที่ยังมีสภาพดี เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ กล่องกระดาษ ขยะมูลฝอยประเภทนี้อาจนำไปขายได้

ที่มา : ไพบูลย์ แจ่มพงษ์.ขยะมูลฝอย.กรุงเทพ:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,ม.ป.ป.

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๗

วันที่ ๓๐ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐

ถุงยางอนามัย


     
     ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุดในขณะร่วมเพศ ทำด้วยวัสดุจากยางพาราหรือโพลียูรีเทน โดยมีทั้งแบบสำหรับผู้ชายและผู้หญิงส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายใช้ โดยใช้สวมครอบอวัยวะเพศชายที่กำลังแข็งตัวในขณะร่วมเพศ โดยเมื่อฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิแล้ว น้ำอสุจิจะถูกเก็บไว้ในถุงยางอนามัย ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองใน และเอดส์ได้

ถุงยางอนามัยในรูปแบบอื่น
●ถุงยางอนามัยสำหรับสตรี  (Female condom)
      -ผลิตจาก โพลียูรีเทน ใช้สวมใส่ในสตรี
●แผ่นแดม(Dental dam ,Vaginal dam,Oral dam)
      -เป็นแผ่นยางอนามัย ใช้สำหรับออรัลเซ็กส์

ขนาดถุงยางอนามัย แบ่งออกได้เป็น ๑๓ ขนาด
●ตั้งแต่ขนาด ๔๔ มิลลิเมตร - ๕๖ มิลลิเมตร
●แต่ขนาดมาตรฐานของชายไทยเรานั้น มี ๓ ขนาด
คือ ขนาด ๔๙ มิลลิเมตร,๕๒มิลลิเมตร,๕๖มิลลิเมตร
หรือเรียกกันง่ายๆว่าขนาด เล็ก กลาง ใหญ่นั่นเอง



ที่มา : ประภาศรี เทียนประเสริฐ.ถุงยางอนามัย.กาฬสินธุ์:คุรุสภาลาดพร้าว,๒๕๓๙

 

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๖

วันที่ ๒๓ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐

โรคเบาหวาน



       โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง และก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดปัญหากับ ฟันและเหงือก ตา ไต หัวใจ หลอดเลือดแดง ผู้ที่เป็นโรคนี้สามารถป้องกันโรคแทรกซ้อนต่างๆได้โดย การปรับอาหาร การออกกำลังกาย และยาให้เหมาะสม 

เบาหวานคืออะไร??
       อาหารที่รับประทานเข้าไปส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคส ในกระแสเลือดเพื่อใช้เป็นพลังงาน เซลล์ในตับอ่อน ชื่อเบต้า เซลล์เป็นตัวสร้าง "อินซูลิน" เป็นตัวนำน้ำตาลกลูโคสเข้าเซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากการขาดฮอร์โมน อินซูลิน 


ใครมีโอกาสเป็นโรคเบาหวาน 
       เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ดังนั้น ผู้ที่มีญาติสายตรง เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง เป็นเบาหวาน จะมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้น หากมีทั้งพ่อและแม่เป็นเบาหวาน จะมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานร้อยละ ๕๐%

ที่มา : ฝ่ายวิชาการสุขศึกษา สาธารณสุข.โรคเบาหวาน.กรุงเทพฯ:หอสมุดกลาง๐๙,ม.ป.ป.

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๕

วันที่ ๒๓ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐

โรคแผลเปบติน (Peptic ulcer) หรือ โรคแผลในกระเพาะอาหาร (Gastric ulcer)

สาเหตุ 

       เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ เอช ไพโลไร (H.pylori หรือ Helicobacter pylori) พบได้ประมาณ ๖๐% เอช ไพโลไร เป็นแบคทีเรียที่มีคนเป็นรังโรค แต่พบในแมวเลี้ยง และสุนัขเลี้ยง เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในส่วนที่มีความเป็นกรดสูงซึ่งจะติดต่อได้จากการสัมผัสน้ำลายของผู้ติดเชื้อ แบคทีเรียนี้การติดต่ออีกทาง คือ การกินแบคทีเรียจากอาหาร และน้ำดื่มปนเปื้อนแบคทีเรีย จากการขาดสุขอนามัยพื้นฐาน

อาการ 

      ปวดท้องบริเวณยอดหรือบริเวณใต้ลิ้นปี่ (Epi gastrium) มักปวดเมื่อหิว หรือ หลังกินอาหารแล้วประมาณ ๒-๕ ชั่วโมง
    ● อาการอื่นๆที่พบได้ คือ
           -คลื่นไส้ อาจร่วมกับอาเจียนบางครั้ง
           -เบื่ออาหาร
           -ผอมลง
           -อาจอาเจียนเป็นเลือด หรือ มีอุจจาระเป็นสีดำเหมือนยางมะตอย เมื่อมีเลือดออกจากแผล

ที่มา : ม.อึ้งอรุณ.วิธีรักษาโรคและสุขภาพ.กรุงเทพฯ:สร้อยทอง,๒๕๔๕

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๓

วันที่ ๑๖ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐


สารพิษในอาหาร


 สารบอแรกซ์ (Borax)
ลักษณะ
    เป็นผงสีขาวมีชื่ออื่นๆ อีก เช่น น้ำประสานทอง สารข้าวตอก ผงกันบูด เพ่งแซ ผงเนื้อนิ่มสารบอแรกซ์ เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น
  ๑)ทำแก้ว เพื่อทำให้ทนความร้อน
  ๒)เป็นสารประสานในการเชื่อมทอง
  ๓)เป็นสารหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราในแป้งทาตัว เป็นต้น
  แต่แม่ค้ามักนำมาผสมในอาหาร เพื่อให้อาหารมีความหยุ่นกรอบ คงตัวได้นาน ไม่บูดเสียง่าย อาหารที่มักพบว่ามีสารบอแรกซ์ ได้แก่ หมูบด ลูกชิ้น ทอดมัน หมูสด เนื้อสด ไส้กรอก ผลไม้ ดองทับทิมกรอบ ลอดช่อง เป็นต้น
   


 พิษของสารบอแรกซ์
เกิดได้สองกรณี คือ

   ๑.แบบเฉียบพลัน จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ หงุดหงิด ผิวหนังอักเสบ ผมร่วง ส่วนอีกกรณีคือ
   ๒.แบบเรื้อรัง จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ผิวหนังแห้ง หน้าตาบวม เยื่อตาอักเสบ ตับไตอักเสบ

ที่มา : นวลจิตต์ เชาวกีรติพงศ์.สารพิษในอาหาร.กรุงเทพฯ:ไทยวัฒนาพานิช,๒๕๓๙


บันทึกการอ่าน ครั้งที่ ๔

วันที่ ๑๖ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐


ไส้เลื่อน 




      
         ไส้เลื่อน (hernia) เป็นภาวะที่ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ อวัยวะภายในหรือเนื้อเยื่อบางส่วนเคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งเดิมผ่านช่องทางปกติ 

ตำแหน่งของไส้เลื่อนที่พบบ่อย
       ๑.ไส้เลื่อนที่สะดือ
       ๒.ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ (พบบ่อยที่สุด)
            -ไส้เลื่อนถุงอัณฑะ
            -ไส้เลื่อนบริเวณต้นขา
       ๓.ไส้เลื่อนที่เกิดจากแผลผ่าตัด

อาการของผู้เป็นไส้เลื่อนทั่วไป
     จะมีอาการปวดท้อง ตื้อๆ หน่วงๆ เป็นๆ หายๆ คลื่นไส้ อาเจียนและอาจจะเกิดอาการปวดอย่างเฉียบพลัน ถึงขั้นลำไส้เล็กขาด จึงต้องมีการผ่าตัดทีนที เพราะถ้าลำไส้ที่ขาดเลือดอาจจะทำให้ลำไส้เน่า และเกิดภาวะแทรกซ้อนถึงขั้นเสียชีวิต

ปัจจัยในการเกิดไส้เลื่อน ที่สำคัญมี ๒ ประเภท
     ๑.การมีแรงดันในช่องท้องที่เพิ่มขึ้น ได้แก่
           -การไอเรื้อรัง
           -ภาวะอ้วน
           -การตั้งครรภ์
           -การยกของหนัก
           -การเบ่งอุจจาระเป็นประจำเนื่องจากท้องผูก
           -ต่อมลูกหมากโต ออกแรงเบ่งปัสสาวะมาก
     ๒.ความอ่อนแอของผนังหน้าท้อง
    เกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
           -ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
           -ความแข็งแรงของผนังหน้าท้องลดลงตามอายุที่มากขึ้น
           -เกิดอุบัติเหตุที่ทำให้หน้าท้องบาดเจ็บ
           -การผ่าตัดช่องท้อง
           -การสูบบุหรี่

ที่มา : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล.ไส้เลื่อน.พิมพ์ครั้งที่๑.นนทบุรี:บียอนด์ เอ็นเทอร์ไพรซ์,๒๕๕๗

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

บันทึกการอ่าน ครั้งที่๒

วันที่ ๙ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐ 

การปลูกพืชไร้ดิน


      การปลูกพืชไม่ใช้ดิน นับเป็นวิธีการใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะการปลูกพืชผักที่ใช้เป็นอาหาร เนื่องจาก ประหยัดพื้นที่และไม่ปนเปื้อนกับสารเคมีต่างๆในดิน ทำให้ได้พืชผักที่สะอาดนำมาเป็นอาหาร มีรสชาติที่ดี มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และผักสดที่ได้จะมีความนุ่มและกรอบกว่าผักที่ปลูกในดิน พืชผักจะมีการเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้เร็วกว่าการปลูกพืชแบบใช้ดินประมาน๑-๒สัปดาห์ และผลผลิตที่ได้จะมีคุณภาพที่ดีและมีความสม่ำเสมอมากกว่าการปลูกในดินปกติ และยังช่วยให้หมดปัญหาเรื่องสภาพดินในการที่ไม่มีความเหมาะสม เช่น ดินเค็ม ดินเป็นกรดเป็นด่าง รวมไปถึงสภาพการขาดแคลนน้ำต่างๆ
        
ที่มา : เฉลิมชัย รุจิเรข.ไฮโดรบอกซ์ ปลูกผักไม่ใช้ดิน ต้นทุนต่ำ ทำง่าย.กรุงเทพฯ : เอ็มไอเอส,๒๕๕๗

บันทึกการอ่าน ครั้งที่๑

วันที่ ๙ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐


มะนาวพืชเศรษฐกิจยอดนิยม

         มะนาวเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่ปัจจุบันการส่งเสริมการปลูกกันอย่างแพร่หลายและยังคิดค้นสายพันธุ์ใหม่ๆขึ้นมา เทคนิคการเพิ่มผลผลิตของมะนาว คือ คุณภาพดี รูปแบบการปลูก และการรักษา ประเทศไทยของเรามีแหล่งที่นิยมปลูกมะนาวอยู่หลายจังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี นครสวรรค์ สมุทรสาคร นครปฐม เชียงใหม่ เป็นต้น
          ทำให้มะนาวกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่นิยม มีทั้งประโยชน์และคุณค่ามากมาย สามารถนำมาใช้ได้ครอบคลุม ตั้งแต่อุตสาหกรรมครัวเรือนไปจนถึงอุตสาหกรรมพาณิชย์ในด้านต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องสำอางค์ การแพทย์ การทำความสะอาด เป็นต้น จึงกลายเป็นพืชที่มีความสำคัญมาตลอดจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง

ที่มา : บรรพตี.คู่มือปลูกมะนาว.กรุงเทพฯ : เอ็มไอเอส,ม.ป.ป.